ไฮไลท์ฟุตบอล มอนเตอร์เรย์ vs ลิเวอร์พูล
เทรนท์ อเล็กซ์านเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายให้โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ซัดทดเจ็บ 90+1 ช่วยนำลิเวอร์พูล เบียดชนะมอนเตร์เรย์ ไป 2-1 ตบเท้าผ่านเข้าชิงแชมป์สโมสรโลกได้แบบหืดจับ
เทรนท์ อเล็กซ์านเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายให้โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ซัดทดเจ็บ 90+1 ช่วยนำลิเวอร์พูล เบียดชนะมอนเตร์เรย์ ไป 2-1 ตบเท้าผ่านเข้าชิงแชมป์สโมสรโลกได้แบบหืดจับ
ดิว็อค โอริกี้ เหมาคนเดียว 2 ลูกพา ลิเวอร์พูล เปิดบ้านกระซวก เอฟเวอร์ตัน ทีมท้ายตาราง 5-2 นำจ่าฝูง 8 แต้มเหมือนเดิมโดยที่ยืดสถิติไม่แพ้เพื่อนบ้านน่ารำคาญเป็น 20 นัดติดต่อกันรวมถึงไร้พ่ายในลีกเป็น 32 เกมและ มาร์โค ซิลวา บิ๊กบอส ‘ท๊อฟฟี่’ เตรียมจองโลงตกงานไว้ได้เลย
มาร์คัส แรชฟอร์ดโชว์ฟอร์มเยี่ยมเกมนี้ยิงประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกนำอย่างรวดเร็ว แม้เดเล่ อัลลีจะมาโชว์ทักษะแจ่มๆตามตีเสมอได้แต่แรชฟอร์ดคนเดิมซัดจุดโทษเป็นประตูตัดสิน ปีศาจแดงเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-1 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ของตาราง
เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังฟอร์มดี วันนี้ถึงจะเปิดบ้านเจอกับทีมบ๊วยที่เพิ่งปลดโค้ชอย่าง วัตฟอร์ด แต่ก็ถือว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างอึดอัด จนมาได้ลูกจุดโทษของ เจมี่ วาร์ดี้ และ เจมส์ แมดดิสัน ช่วงท้ายเกม ช่วยให้พวกเขาชนะไป 2-0 แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงตามเดิม
แทมมี่ อับราฮัม ซัดประตูที่ 11 ให้ตัวเอง ก่อนพักอกตั้งให้ เมสัน เมาท์ ซัดประตูชัยสุดสวยพาเชลซี เปิดบ้านเอาชนะแอสตัน วิลล่า ในเกมที่เหนือกว่ามากไป 2-1 ยุติผลงานสดุดไม่ชนะมา 3 นัดติด และกลับมาเก็บ 3 คะแนนเกาะกลุ่มอยู่อันดับ 4 ต่อไป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเอาชนะ เบิร์นลีย์ 4-1 โดยได้ กาเบรียล เชซุส เบิ้ลเบิกร่องก่อนที่ โรดรี้ กับ ริยาด มาห์เรซ จะมาบวกเพิ่ม ส่วนเจ้าถิ่นได้ปลอบใจท้ายเกมจาก ร็อบบี้ เบรดี้ ทำให้เรือใบสีฟ้ามีเพิ่มเป็น 32 คะแนนจาก 15 นัด ขยับรั้งรองฝูงพรีเมียร์ลีกชั่วคราว
“หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เกือบจอดคาบ้านหลังเจอทีเด็ด นาโปลี บวกกับกรรมการเป่าค้านสายตาจนเสียประตูแรก แต่ เดยัน ลอฟเรน กองหลังเบอร์หนึ่งของโลกโหม่งตีเสมอ 1-1 ทำให้นัดสุดท้ายต้องลุ้นอย่างหนักต้องการอย่างน้อยๆเสมอเกมเยือนของแข็งอย่าง ซัวส์บวร์ก เพื่อตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก
เป็นเกมที่ค่อนข้างเหนื่อยสำหรับงูใหญ่ที่ต้องอาศัยความสามารถของ 2 ประสานในแดนหน้าอย่าง โรเมลู ลูกากู และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่พากันยิง+จ่าย ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน บุกมาชนะ สลาเวีย ปราก 3-1 เกมเพิ่มเป็น 7 แต้ม ได้ไปลุ้นต่อนัดสุดท้าย
เชลซีโดนนำก่อนยังได้มาเตโอ โควาซิชกับคริสเตียน พูลิซิชช่วยกันยิงแซง แต่เจอลูกฟลุ๊คของดาเนียล วาสครอสบอลชนเสาเข้าในนาที 82 แถมทดเจ็บเกือบโดนโรดริโก้ฝังด้วยถ้าไม่ทำหมูหก สิงห์บลูส์ยังรอดไปเสมอกับบาเลนเซีย 2-2 ทำให้การเข้ารอบต้องไปลุ้นกันในเกมสุดท้าย
สเปอร์โดนนำ 2-0 ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่คัมแบ็คมาได้ด้วยประตูท้ายครึ่งแรกของเดเล่ อัลลี ก่อนที่จะเป็นแซร์จ โอริเยร์ซัดพาแซงนำและแฮร์รี่ เคนปิดท้ายด้วยการเหมาสอง ไก่เดือยทองแซงกลับมาชนะโอลิมเปียกอส 4-2 พร้อมคว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก